โอเอช ลูเวิน พลาดท่าปราชัยในเกมสำคัญอีกครั้ง หลังเปิดสนาม คิง เพาเวอร์ แอท เดน ดรีฟ พ่ายต่อ เควี มิเชเลน 1-2 ในคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ถือเป็นความพ่ายแพ้ในบ้านนัดที่สองของฤดูกาล และส่งผลเสียต่อโอกาสในการลุ้นพื้นที่ยุโรปอย่างชัดเจน
คริส โคลแมน เฮดโค้ชของลูเวิน ปรับทัพถึง 4 ตำแหน่ง ส่ง มานูเอล โอซิโฟ, ร็อจเจริโอ นียาคอสซี่, เฟเดริโก้ ริคค่า และ ติโบลต์ ฟลีติงค์ ลงเป็นตัวจริงแทนที่ ออสการ์ กิล, อีวูด์ พลีติงค์, ฮาซาน คูรูคาย และ อายูมุ โอฮาตะ ส่วนทีมเยือน มิเชเลน ยังคงใช้ผู้เล่นชุดเดียวกับเกมที่ชนะเวสเตอร์โลเมื่อสัปดาห์ก่อน
ตลอดครึ่งแรก ลูเวินมีปัญหาในการครองเกม มิเชเลน ได้ลุ้นก่อนจากจังหวะยิงของ ร็อบ ช็อฟฟ์ ที่เสาไกล แต่บอลเหินข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย เกมเกือบพลิกในนาทีที่ 16 เมื่อ ซีเบ้ สไครจ์เวอร์ส เกือบสกัดลูกเปิดของ เบลกาลี เข้าประตูตัวเอง แต่บอลไปชนคานช่วยให้ ลูเวิน รอดพ้นการเสียประตูไปอย่างหวุดหวิด
จนกระทั่งนาที 34 ลูเวินมีจังหวะตอบโต้บ้างจากลูกยิงมุมแคบของ เอเซคีล บานซูซี่ แต่ยังไม่ผ่านมือ เดอ โวล์ฟ นายด่านทีมเยือน
เกมทำท่าจะจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ 0-0 แต่แล้วในช่วงท้ายครึ่งแรก มิเชเลน มาได้จุดโทษจากจังหวะบอลโดนมือของโ อซิโฟ และเป็น ช็อฟฟ์ ที่ยิงไม่พลาด ส่งให้ทีมเยือนออกนำ 0-1

ลูเวิน พยายามกลับมาเล่นด้วยความมั่นใจหลังพักครึ่ง แต่ยังไม่สามารถเจาะแนวรับ มิเชเลน ได้ โค้ช โคลแมน ส่ง ฮาซาน คูรูคาย และ เลกินซิโอ ซีฟุค ลงมาแทนโอซิโฟและ มาซิซ ก่อนที่ประตูที่สองของ มิเชเลน จะถูกปฏิเสธ เนื่องจาก ลีออน เลาเบอร์บัค กองหน้า เยอรมัน ล้ำหน้าไปซะก่อน
นาทีที่ 70 โอกาสยิงของทั้งสองทีมอยู่ที่ 1 ต่อ 11 เป็นฝั่งทีมเยือนที่ทำเกมรุกได้เหนือกว่า ทำให้โค้ชโคลแมนตัดสินใจส่ง วูเตอร์ จอร์จ และ วิลเลี่ยม บาลิควิช่า ลงมาแทน บานซูซี่ และ ธิโบด์ แฟร์ลินเดน จากนั้นอีก 10 นาที อีวูด์ พลีติงค์ ถูกส่งลงสนามแทน ร็อจเจริโอ นียาคอสซี่ ซึ่งจังหวะสุดท้ายของเขาก่อนถูกเปลี่ยนตัวนั้นคือการสกัดลูกยิงของ รามาน ที่เกือบเป็นประตูที่สองของทีมเยือน
แต่สุดท้าย สตอร์ม ก็ยิงผ่านมือ เลย์เซ่น เข้าไปอย่างเฉียบคมที่เสาไกล ส่ง มิเชเลน นำห่างเป็น 0-2
ช่วงท้ายเกม ลูเวินเปิดเกมบุกเต็มที่ จอร์จ เปิดบอลจากฝั่งซ้ายให้ บาลิควิช่า แต่ยังติดเซฟ เดอ โวล์ฟ แต่อย่างไรก็ตามในช่วงนาทีสุดท้ายของเวลาปกติ ลูเวินมาได้ประตูตีไข่แตกจาก พลีติงค์ กองหลังที่ดันขึ้นมาสูงแล้วยิงครอสเรียดด้วยซ้ายเข้าไป ลูเวิน ไล่มาเป็น 1-2
แม้จะมีช่วงทดเวลาบาดเจ็บถึง 6 นาที แต่ลูเวินไม่สามารถตามตีเสมอได้ ส่งผลให้สถิติไม่แพ้ใครในรอบยูโรเปี้ยน เพลย์ออฟ ต้องยุติลง