อิบราฮิมา ซ็องโก้ รับตำแหน่งโค้ชพัฒนาการที่ โอเอช ลูเวิน

6 มีนาคม 2025

โอเอช ลูเวิน แต่งตั้ง อิบราฮิมา ซ็องโก้ เป็นโค้ชพัฒนาการ (Transitiecoach) คนใหม่ โดยอดีตกองหลังวัย 44 ปี ซึ่งเคยเล่นให้กับ เบรนท์ฟอร์ด, เรดดิ้ง, สโต๊ค ซิตี้ และ อิปสวิช ทาวน์ จะทำหน้าที่ช่วยเหลือผู้เล่นดาวรุ่งให้ก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ได้ง่ายขึ้น

อิบราฮิมา ซ็องโก้ คือใคร?

ซ็องโก้ เผยถึงเส้นทางของตนเองว่า “ผมเกิดที่เซเนกัล เติบโตที่ปารีส และเข้าร่วมศูนย์ฝึกเยาวชนของแซงต์-เอเตียนน์ตั้งแต่อายุ 16 ปี” หลังจากนั้น เขาย้ายไป เกรอน็อบล์ เมื่ออายุ 18 ปี ก่อนออกเดินทางสู่ อังกฤษ ในปี 2002 ซึ่งที่นั่นเขาได้ลงเล่นในหลายระดับลีก โดยเฉพาะกับ เรดดิ้ง, สโต๊ค ซิตี้ และ ฮัลล์ ซิตี้ ในศึกพรีเมียร์ลีก นอกจากนี้ ในปี 2012 เขายังเคยไปค้าแข้งที่ ตุรกี กับสโมสร อัคฮิซาร์ เบเลดิเยสปอร์

“ผมมีพื้นฐานฟุตบอลแบบฝรั่งเศส ได้สัมผัสสไตล์ฟุตบอลอังกฤษที่เน้นความแข็งแกร่งและรวดเร็ว และยังได้เรียนรู้ฟุตบอลตุรกีที่เน้นแท็กติกและเทคนิคมากขึ้น นั่นทำให้ผมได้รับประสบการณ์จากการทำงานร่วมกับโค้ชหลายคนในสไตล์ที่แตกต่างกัน” ซ็องโก้กล่าว

บทบาทใหม่ที่ โอเอช ลูเวิน

ก่อนหน้านี้ ซ็องโก้เป็นโค้ชทีม U21 ของ ยูนิโอน เซนต์-กิลลัวส์ และได้รับความสนใจจาก จอร์จี้ เชเปรกี้ ผู้อำนวยการเทคนิคของโอเอช ลูเวิน “ผมได้พูดคุยกับเขาเกี่ยวกับความทะเยอทะยานของผม และยังได้พบกับ คริส โคลแมน เฮดโค้ชของทีม ซึ่งผมรู้จักเขาตั้งแต่สมัยเล่นในอังกฤษ พวกเขาเชื่อว่าผมเหมาะกับบทบาทนี้ ผมจะคอยช่วยเหลือผู้เล่นดาวรุ่งในการเปลี่ยนผ่านสู่ฟุตบอลอาชีพ”

“การเริ่มต้นที่นี่เป็นไปได้ด้วยดี ผมเข้ากับนักเตะได้อย่างรวดเร็ว โค้ชทีม U-23 ซาช่าส์ โคติช แนะนำผมให้ทุกคนรู้จัก ผมจึงสามารถพูดคุยและให้คำแนะนำแก่ผู้เล่นได้ทันที”

การโค้ชแบบรายบุคคล

ซ็องโก้อธิบายถึงบทบาทของเขาว่า “ผมไม่ได้เน้นเรื่องแผนการเล่นของทีม แต่จะโฟกัสไปที่การพัฒนารายบุคคล เข้าใกล้ผู้เล่นมากขึ้น และให้คำแนะนำเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่สร้างความแตกต่างได้”

“คุณสามารถมองว่าผมเป็นสะพานเชื่อมระหว่างทีม U-23 และทีมชุดใหญ่ เป้าหมายของผมคือช่วยให้พวกเขาปรับปรุงจุดที่ต้องพัฒนา ถ่ายทอดประสบการณ์ และเตรียมพวกเขาสำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต”

สร้างรากฐานสำหรับอนาคต

แม้จะเข้ารับตำแหน่งในช่วงท้ายฤดูกาล แต่ซ็องโก้มองว่านี่เป็นช่วงเวลาที่ดีในการเรียนรู้และเตรียมความพร้อมสำหรับฤดูกาลหน้า “ตอนนี้เราไม่สามารถฝึกซ้อมหนักเกินไป เพราะนักเตะผ่านเกมมาเยอะแล้ว แต่เราสามารถใช้เวลานี้เพื่อทำความรู้จักกับพวกเขา และให้คำแนะนำที่จำเป็น เพื่อให้พวกเขามีความพร้อมมากขึ้นในฤดูกาลถัดไป ซึ่งเราจะสามารถทำงานได้ละเอียดขึ้น ทั้งในแง่ของวิดีโอ, ข้อมูลเชิงลึก และการฝึกซ้อมในสนาม”

“ผมต้องการส่งต่อความหลงใหลในฟุตบอลให้กับพวกเขา ผู้เล่นดาวรุ่งหลายคนอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน บางคนเริ่มเป็นดาวเด่น แต่ยังไม่พร้อมสำหรับทีมชุดใหญ่ เราต้องช่วยให้พวกเขาก้าวข้ามช่วงเวลานี้ และตระหนักว่าพวกเขายังต้องพัฒนาอีกมาก การเป็นนักฟุตบอลอาชีพไม่ใช่เรื่องของแค่ปีเดียว แต่มันคือเส้นทางอาชีพที่กินเวลานานกว่าสิบปี”

เตรียมความพร้อมสำหรับทุกสถานการณ์

ซ็องโก้เข้าใจดีว่าการเปลี่ยนผ่านสู่ทีมชุดใหญ่ต้องการอะไรบ้าง “นักเตะต้องปรับตัวให้เข้ากับโค้ช, ระบบการเล่น และสถานการณ์ในเกม เราต้องเตรียมพวกเขาสำหรับทุกสถานการณ์ พวกเขามักจะมองแค่สิ่งที่อยู่ตรงหน้า แต่ไม่ได้คิดถึงสิ่งที่อาจเกิดขึ้น”

“ผมพร้อมช่วยเหลือนักเตะทุกคน บางคนพัฒนาเร็วและอาจขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ได้ไว ผมเคยเป็นกองหลัง จึงสามารถให้คำแนะนำในตำแหน่งนี้ได้เป็นพิเศษ แต่ผมก็เคยเผชิญหน้ากับกองหน้าระดับโลก เช่น ดร็อกบา, ตอร์เรส, รูนี่ย์, เบอร์บาตอฟ และโอเว่น ผมศึกษาพวกเขาเพื่อพัฒนาตัวเอง และผมต้องการส่งต่อรายละเอียดเหล่านี้ให้กับนักเตะรุ่นใหม่ เพื่อเตรียมพวกเขาสำหรับอนาคต”

รักษามาตรฐานระดับสูง

สุดท้าย ซ็องโก้กล่าวถึงแนวทางวัดผลการพัฒนา “สิ่งสำคัญคือความสม่ำเสมอในการฝึกซ้อมและการแข่งขัน ถ้าพวกเขามีความต่อเนื่อง แสดงว่าพวกเขากำลังพัฒนา”

“การเป็นนักฟุตบอลอาชีพ คุณต้องรักษามาตรฐานของตัวเองไว้เสมอ ระดับฟอร์มของคุณต้องไม่ตกต่ำจนเกินไป เพราะมีเส้นบาง ๆ ระหว่างความสมบูรณ์แบบและความผิดพลาด พวกเขาต้องพยายามรักษาฟอร์มให้อยู่เหนือมาตรฐานตลอดเวลา”

“นอกจากนี้ ผมยังจะดูว่าแต่ละคนมีโอกาสซ้อมกับทีมชุดใหญ่บ่อยแค่ไหน และได้รับฟีดแบ็กอย่างไร รวมถึงการใช้วิดีโอและข้อมูลเชิงลึกเพื่อวิเคราะห์พัฒนาการของพวกเขา ผมตั้งใจจะทำงานรายบุคคลกับนักเตะมากขึ้นในอนาคต”

ซ็องโก้จะมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ดาวรุ่งของ โอเอช ลูเวิน ก้าวไปสู่ระดับสูงสุด และเตรียมพวกเขาสำหรับความท้าทายที่รออยู่ในอนาคต