หลังจากร่วมงานกับสโมสรมายาวนานถึง 53 ปี อ็องเดร มีเคียลส์ ตัดสินใจอำลาตำแหน่งผู้จัดการทีม (คนละตำแหน่งกับเฮดโค้ช ของ คริส โคลแมน) สโมสรโอเอช ลูเวิน หลังจบฤดูกาลนี้ โดยเจ้าตัวเผยว่า “ผมไม่เคยเสียใจกับสิ่งใด และผมได้ทำทุกอย่างอย่างสุดความสามารถเสมอ”
มีเคียลส์ เริ่มต้นเส้นทางกับหนึ่งในสามสโมสรดั้งเดิมของ โอเอช ลูเวิน ตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 1972
“จากปี 72 มาจนถึงวันนี้ ไม่ใช่เวลาสั้น ๆ เลย” เขากล่าวย้อนความหลัง “แม้บทบาทของผมจะไม่ได้เข้มข้นตลอดเวลา แต่ผมเติบโตไปพร้อมกับสโมสร”
แม้จะก้าวลงจากตำแหน่งหลัก แต่ มีเคียลส์ ยังตั้งใจจะช่วยงานเบื้องหลังที่ศูนย์ฝึกซ้อมต่อไป “ผมยังคงช่วยงานเล็ก ๆ ที่ผมเคยทำอยู่ต่อไป แต่เมื่ออายุจะครบ 77 ปี ผมคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะชะลอจังหวะชีวิตลงบ้าง”
“บางครั้งทุกอย่างก็เกิดขึ้นเร็วเกินไปสำหรับผม ความจำของผมไม่เหมือนเมื่อสิบปีก่อน ผมเริ่มรู้สึกชัดเจนเวลาเปลี่ยนตัวนักเตะระหว่างการแข่งขัน ผมไม่อยากให้ทีมต้องเดือดร้อนเพราะดูเหมือนผมทำงานไม่เรียบร้อย ซึ่งมันขัดกับความพิถีพิถันในตัวผมเอง”
พิธีอำลาอันน่าประทับใจ
ก่อนเกมสุดท้ายในบ้านของฤดูกาลที่พบกับ เวสเตอร์โล สโมสรได้จัดพิธีอำลา อ็องเดร อย่างอบอุ่น “ผมเคยเห็นข่าวในหนังสือพิมพ์ว่าสโมสรเตรียมอะไรบางอย่างไว้ แต่ก็ไม่คาดคิดว่าจะเป็นพิธีที่น่าประทับใจขนาดนี้ มันทำให้ผมรู้สึกตื้นตันมากกว่าที่คิดไว้ นี่ไม่ใช่แค่เกมสุดท้ายในบ้านของผม แต่มันคือการปิดฉากเส้นทางที่ยาวนาน ผมไม่มีอะไรต้องเสียใจ และภูมิใจที่ได้ทำเต็มที่ในทุกบทบาทที่ได้รับ”
ช่วงเวลาที่น่าจดจำ
ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา อ็องเดร ได้ผ่านเหตุการณ์สำคัญมากมาย “แม้เขาจะไม่ได้อยู่กับทีมแล้ว แต่การจากไปของ ฟรังซัวส์ สเตอเคเล ส่งผลต่อจิตใจผมอย่างมาก คอยส์เซ่ เองก็มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาสโมสร เขาคือหนึ่งในผู้ที่วางรากฐานให้ โอเอช ลูเวิน เป็นทีมอย่างที่เราเห็นในทุกวันนี้”
“ผมอยู่กับทีมมาตั้งแต่ลีกระดับจังหวัด และได้สัมผัสทั้งความสำเร็จในการเลื่อนชั้นรวมถึงความผิดหวังจากการตกชั้น แต่ในฟุตบอล เราไม่มีเวลาจมอยู่กับอดีต เมื่อคุณกลับไปดูภาพถ่ายย้อนหลัง ความทรงจำเหล่านั้นก็จะย้อนกลับมาเอง”
ความเคารพและความผูกพัน
การอำลาของ อ็องเดร สร้างความรู้สึกเสียดายให้กับหลายฝ่ายในสโมสร “ทุกครั้งที่ผมบอกใครว่าผมจะลาออกจากตำแหน่ง ผู้คนมักจะบอกว่าเสียดาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพราะผมทำงานใกล้ชิดกับผู้ตัดสินมาอย่างยาวนาน เรารู้จักกันดี และผมให้ความเคารพพวกเขาเสมอ แม้ผมจะมีความเห็นวิพากษ์วิจารณ์ในบางจังหวะ แต่พวกเขาก็เปิดรับและให้ความชื่นชมในความตรงไปตรงมาของผม”
คำอวยพร
“ถ้าจะให้ขอพรอะไร ผมก็อยากให้สุขภาพแข็งแรง โดยเฉพาะเข่าที่มีปัญหามาระยะหนึ่งแล้ว” เขากล่าวเสริม “เมื่อก่อนผมเคยประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์อย่างรุนแรง ต้องนอนโรงพยาบาลถึง 50 วัน วันนั้นพอพี่ชายมารับ ผมพูดในรถว่า ‘พวกเขามีโอกาสจะพาผมไปแล้วแต่ยังไม่ทำ งั้นผมจะอยู่ถึง 100 ปีเลยละ’ และตอนนี้ ผมก็ยังเดินหน้าอยู่บนเส้นทางนั้น”